TACT2 (Trial to Assess Chelation Therapy 2) ความคาดหวังจากแดนไกล

TACT2 (Trial to Assess Chelation Therapy 2) ความคาดหวังจากแดนไกล

 

แม้ปัจจุบันการนำคีเลชั่นบำบัดมาใช้ในการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจยังไม่เป็นที่ยอมรับของสมาคมแพทย์โรคหัวใจและหลอดเลือดของสหรัฐอเมริกา กระทั่ง FDA (องค์การอาหารและยา USA) ยังไม่รับจดทะเบียนยาที่มีสรรพคุณในการคีเลชั่นหลอดเลือด  ในประเทศไทยเองหากนำข้อบ่งชี้เรื่องโรคหัวใจมาวินิจฉัยให้ทำคีเลชั่นบำบัด  ก็ไม่เป็นที่ยอมรับจากแพทยสภาเช่นกัน (๑) 

แต่ความพยายามค้นหาคำตอบจาก  TACT Study 1  ที่แอดมินเอามาโพสให้ทุกคนได้ถกเถียงกัน  เรื่องข้อสรุปว่าคีเลชั่นบำบัดปลอดภัย และผู้ป่วยเบาหวานได้รับผลตอบสนองดีขึ้นอย่างน่าแปลกใจ แต่ก็ไม่แนะนำให้ใช้รักษาโรคหัวใจเพราะยังไม่คุ้มค่า  จึงมีการวางโครงการวิจัยเพื่อค้นหาคำตอบ เพื่อหาความหวังของผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด ตามมาเป็น EP2 

Trial to Assess Chelation Therapy 2 เริ่มต้นตั้งแต่เดือน ตุลาคม 2016  คาดการว่าจะรายงานผลงานวิจัยนี้ใน เดือนสิงหาคม 2021 โดยโครงการนี้มีผู้ร่วมทำวิจัยคือ National Center for Complementary and Integrative Health (NCCIH), National Heart, Lung, and Blood Institute (NHLBI) และ Duke Clinical Research Institute  โดยใช้สารคีเลชั่นตัวเดิมคือ Disodium EDTA กับ วิตามินเกลือแร่  ใช้กลุ่มตัวอย่าง 1,200 คน  คาดว่าจะใช้งบประมาณกว่า 30 ล้าน US เช่นกัน 

อย่างที่บอกว่างานวิจัยเหล่านี้มีทั้งกองเชียร์และกองแช่ง ทั้งแพทย์ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ท่านก็มีสิทธิ์ที่จะวิพากษ์วิจารณ์กันไปในแต่ละมุมมอง ยิ่งถกเถียงกันมากก็ยิ่งดี  แม้ว่าผลที่ออกมาเป็นประโยชน์แก่ผู้ป่วย ก็ใช่ว่าแพทย์จะยอมรับงานวิจัยกันทุกคนเช่นกัน ความหวังของผู้ป่วยจึงถูกฝากไว้กับแพทย์ผู้ทำการรักษา ว่าจะกล้าเลือกสิ่งที่ตนเชื่อ หรือ  สิ่งที่แพทย์ท่านอื่นบอกให้เชื่อ  สุดแล้วแต่ดุลยพินิจของแพทย์ที่มีสุขภาพของคนไข้ไว้เป็นเดิมพัน

TACT 2 จะเป็นความหวังจากแดนไกลหรือไม่? ต้องรอติดตามกันต่อไปอย่างใกล้ชิด และนี่ก็คือคีเลชั่นสมัยใหม่ ที่แพทย์บางท่านยังคิดว่าเป็น Classical Mythology ในยุคหลังสงครามโลกอยู่  แอดมินอยากให้คุณหมอทุกท่านได้เข้าไปติดตาม TACT 2 ได้ที่ http://tact2.org  เผื่อคุณหมอจะมีแง่มุมต่างๆให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนต่อไป  เพราะหากจะรอคำตอบนี้จากงานวิจัยในประเทศไทย คงต้องรอกันอีกนานกว่านี้

 

ปล.๑ คีเลชั่นบำบัดไทยมีข้อบ่งชี้เรื่องโรคโลหะหนักเป็นพิษเฉียบพลันหรือเรื้อรังเท่านั้น ห้ามโฆษณาเรื่องโรคหัวใจและหลอดเลือด ต้องรอ TACT 2 กันต่อไปในปี  2021 ครับ

Link >>  http://tact2.org